ผิวแพ้ง่าย กรรมพันธุ์หรือเพราะไม่ดูแล

ผิวแพ้ง่าย กรรมพันธุ์หรือเพราะไม่ดูแล
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้านสมาคมคนขี้แพ้! ใครมีผิวแพ้ง่ายเชิญทางนี้เล๊ยย

ผิวแพ้ง่าย กรรมพันธุ์หรือเพราะไม่ดูแล

 เราสามารถจำแนก Skin Types เบื้องต้นได้ตามความมันวาวของผิวหน้าที่เกิดจากการผลิตน้ำมัน (Sebum) ของต่อมไขมันได้ว่าเรามีผิวเช่นไร ผิวธรรมดา ผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม แต่ในปัจจุบันแพทย์ผิวหนังได้มีการนำคำว่า “ผิวแพ้ง่าย” มาเป็นเกณฑ์วิเคราะห์ Skin Types อีกรูปแบบหนึ่งด้วย เช่น ผิวธรรมดา-แพ้ง่าย ผิวมัน-แพ้ง่าย ผิวแห้ง-แพ้ง่าย ผิวผสม-แพ้ง่าย และผิวแพ้ง่ายมากพิเศษ

ผิวแพ้ง่ายคืออะไร

ผิวแพ้ง่าย คือ ผิวที่ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ่นได้อย่างว่องไว และแสดงอาการผด ผื่นแดง แสบ คัน ฯ และจากการศึกษารายงานการวิจัยพบว่าใบหน้าของผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจะมีค่าความชุ่มชื้นน้อยกว่าผู้ที่มีผิวแข็งแรง ดังนั้นสาเหตุหนึ่งในการเกิดผิวแพ้ง่ายน่าจะมาจากเกราะปกป้องผิวในชั้นหนังกำพร้า (Stratum Corneum) ไม่สามารถป้องกันการสูญเสียน้ำของเซลล์ผิวหนังได้ พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ —> ผิวสูญเสียน้ำ —> ผิวขาดน้ำ —> ผิวอ่อนแอลง —> ผิวแพ้ง่าย

ทำไมเกราะป้องกันผิวถึงอ่อนแอ? ทำไมตัวเองถึงมีผิวแพ้ง่าย ผิวขาดน้ำ?

ถ้าตัดเรื่องอายุออกไป คุณเคย…
1. ล้างหน้าแรง ๆ เพราะคิดว่าจะทำให้ล้างหน้าสะอาดขึ้น
2. สครับ/มาร์กหน้าบ่อย ๆ (มากกว่า 2 ครั้ง/สัดาห์)
3. ใช้ตัวยาแรง ๆ เพราะอยากเห็นผลไว ๆ
4. เลเซอร์ผิวหน้าบ่อย ๆ (มากกว่า 4 ครั้ง/เดือน)
5. ไม่เคยบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวเพียงอย่างเดียว
6. ไม่ทาครีมกันแดด
7. ไม่เคารพตัวเอง (พักผ่อนน้อย นอนดึกตื่นสาย ดื่มน้ำน้อย ทานแต่ของไร้ประโยชน์ ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ออกกำลังกาย)
ถ้าคุณเคย…นั่นแหละค่ะเหตุผล…ฉะนั้นคนที่ทำให้เกิดกระแส ผิวแพ้ง่าย ผิวขาดน้ำ ก็คือ ตัว-คุณ-เอง

ผิวแพ้ง่าย ผิวขาดน้ำ ดูแลอย่างไร
การจะทำให้ผิวแพ้ง่าย ผิวขาดน้ำกลับมาสดใส เปล่งปลั่ง นุ่มฟู เด้ง สุขภาพดีอย่างยาวนาน สาว ๆ ก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุสิจ๊ะ ถ้าเกราะป้องกันผิวเราอ่อนแอ เราก็ต้องหมั่นดูแล เติมน้ำเช้า-เย็น ให้ผิวของเรากลับมาแข็งแรงเต็ม 100 ตามนี้เล๊ยย
1. ล้างหน้าอย่างนุ่มนวลด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ไม่มีสารสบู่ สาร SLS/SLES น้ำหอม แอลกอฮอล์
2. ใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้า เพื่อปรับสมดุล เตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
3. ขั้นตอนบำรุง บำรุง และก็บำรุง
3.1 อันแรกให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเหลวที่สุด บางเบา และซึมไว จากนั้นค่อยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะข้นหนืด เนื้อหนัก ซึมช้า
เช่น น้ำตบ essence เซรั่ม —> เจล (หนืดน้อย) —> เจล (หนืดมาก) —> โลชั่น —> ครีม —> Oil
3.2 เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นเป็นหลัก สารสำคัญ เช่น Hyaluron, Sodium PCA, Aloe Vera ฯ
4. ขั้นตอนสุดท้ายนั่นก็คือ “อดทนรอ” รอให้ผลิตภัณฑ์ออกฤทธิ์ รอให้ผิวปรับสภาพ รอให้ผิวฟื้นตัวกลับมาแข็งแรงจำไว้ว่าอะไรที่เห็นผลไวเกิน ใช่ว่าจะให้ผลดีเสมอไป เพราะการฟื้นฟูยากกว่าการทำลาย ถ้าไม่อยากมีผิวแพ้ง่าย ผิวขาดน้ำ ก็ต้องรู้จักคำว่า “รอ

 

เพราะ FACELABS เชื่อว่าการมีผิวแข็งแรงสุขภาพดีคือการลงทุนเก็งกำไรในระยะยาว

อ้างอิงจาก

กานต์ วงศ์ศุภสวัสดิ์ และคณะ. (ม.ป.ป). ความสัมพันธ์ของการสูญเสียน้ำทางผิวหนังกับการมีผิวเซนซิทีฟ (CORRELATION OF TRANSEPIDERMAL WATER LOSS AND SENSITIVE SKIN). มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
Piccioni, A., et al. (2017). Improving Skin Aging, Skin Hydration and Sensitive Skin with Four Specific Skin Care Product : Results from and Single-Centre, Observation, Prospective Study.
Journal of Cosmetics, Dermatological Science and Applications, 7, 48-56.
Baumann, L. (2008). Understanding and Treating Various Skin Types : The Baumann Skin Type Indicator. Dermatologic Clinics, 359-373.

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล