อย่างที่เราทราบกันดีว่าสิวถือเป็นโรคผิวหนังอย่างหนึ่งที่เกือบทุนคนต้องเคยผ่านประสบการณ์ “เป็นสิว” มากันบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิวที่หน้า หรือเป็นสิวที่ขึ้นแค่เฉพาะบางจุด เช่น หน้าผาก คาง แก้มเป็นต้น ซึ่งหลังจากหลุดพ้นวงจรเป็นสิวไปได้แล้ว เราจะค่อนข้าง Sensitive การเลือกสกินแคร์ เครื่องสำอางเป็นอย่างมากเพราะก็คงไม่มีใครอยากกลับไปเป็นสิวอีกหรอกเนอะ ซึ่งก็ไปได้สวยหลายปี หน้าเนียนใส๊ ไม่เป็นสิว แต่หนุ่ม ๆ สาว ๆ สังเกตหรือไม่ว่าช่วงนี้อยู่ดี ๆ สิวก็ขึ้น! ทั้ง ๆ ที่ก็ทำเหมือนเดิมปกติทุกอย่าง แล้วสิวมาจากไหน?
Q : หรือจะเป็นสิวฮอร์โมน? เพราะกำลังเป็นช่วงนั้นของเดือนพอดี
A : ก็เป็นไปได้แต่เปอร์เซ็นต์มันน้อยมาก ๆ เลยนะ เพราะสาว ๆ ที่เป็นสิวก็ใช่ว่าจะเป็นช่วงนั้นของเดือนพร้อมกันทุกคนซะที่ไหน ไหนจะหนุ่ม ๆ อีกถูกมั้ย?
Q : …..
A : เพราะฉะนั้นตัดสิวฮอร์โมนออกไปได้เลย แต่ถ้ามาคิดดูดี ๆ นี่ก็เป็นช่วงหน้าร้อน แถมฝุ่น PM 2.5 เมืองไทยก็เยอะไม่แพ้ชาติใดในโลก มีความเป็นไปได้ว่าสิวที่หนุ่ม ๆ สาว ๆ เป็นอยู่อาจเป็นสิวหน้าร้อน ไม่ก็เป็นสิว PM 2.5
Q : อืม น่าสน แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราเป็นสิวหน้าร้อน หรือเป็นสิว PM 2.5?
A : นี่ไงเดี๋ยว facelabs เค้าจะมาเฉลยให้รู้เอง
วิธีสังเกตว่าเราเป็นสิวหน้าร้อนหรือสิว PM 2.5
ใครที่เป็นสิวช่วงนี้บอกเลยว่าลำบากสุด ๆ เพราะไม่รู้ว่าเราเป็นสิวหน้าร้อน หรือสิว PM 2.5 เนื่องจากเมื่อผิวหน้าโดนแสงแดด ความร้อน หรือฝุ่นละอองก็ส่งผลให้เกิดผดผื่นขึ้น ไม่ก็เป็นสิวผดได้เช่นกัน ซึ่งสิวผดก็จะมีลักษณะเป็นผดเม็ดเล็ก ๆ บ้างก็กระจาย บ้างก็รวมกันเป็นกระจุกทำให้สรุปได้ยากว่าเราเป็นสิวอะไรกันแน่ แต่ถ้าเราอ่านข้อมูลให้ละเอียด ไม่ได้อ่านแบบ skimming จะสังเกตเห็นความแตกต่างของสิวผดที่เกิดจากแสงแดด กับฝุ่น PM 2.5 นั้นแยกไม่ยากเลย
สำหรับคนที่เป็นสิวหน้าร้อน สิวผดที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะผุด ๆ โผล่ ๆ อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ผุด-ผุด-โผล่-โผล่ เพราะสิวผดจะชอบขึ้นตอนที่เราออกไปข้างนอกโดนแดด โดนลม โดนความร้อน โดนฝุ่น แต่พอกลับเข้ามาที่ออฟฟิศ หรือกลับถึงบ้าน อาบน้ำปะแป้ง เปิดแอร์เย็น ๆ สิวผดก็ยุบหายแว๊บไปเลย นี่แหละคือลักษณะของคนที่เป็นสิวผดหน้าร้อน
แต่คนที่เป็นสิวผดจากฝุ่น PM 2.5 สิวผดจะอยู่บนใบหน้าเราอย่างยั่งยืนยง อยู่เป็นเพื่อนคู่ซี้คู่ชีวิตอย่างนั้นแหละ บางทีก็ทำให้สิวอุดตันขึ้น มีหัวเม็ดขาว ๆ น่ากด น่าบีบที่สุด นอกจากนี้สิวจาก PM 2.5 ยังสามารถจับกับสารโลหะ สารเคมีในอากาศ เมื่อเข้าสู่ผิวก็จะเปลี่ยนเป็นอนุมูลอิสระ ทำให้เซลล์ผิวเราตายเร็วขึ้น ผิวหน้าอ่อนแอ แพ้หรือระคายเคืองได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้อนุมูลอิสระที่เกิดจากฝุ่น PM 2.5 ยังก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ “เราจะดูแก่กว่าอายุจริงนั้นเอง”
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากโดนทักว่า 30 ทั้ง ๆ ที่อายุ 25 หรอกจริงมั้ย? ซึ่ง facelabs ก็มีข้อมูลสาระดี ๆ มาเล่าสู่กันฟัง ทำเองได้ง่าย ๆ
วิธีป้องกันอย่างไรไม่ให้เป็นสิวผด
1. กรณีที่เป็นสิวผดหน้าร้อน
เราต้องล้างหน้าให้สะอาด แล้วใช้ยาจำพวกคีโตโคนาซอลเพื่อลดปริมาณเชื้อยีสต์หรือเชื้อราที่อยู่บนหน้าเรา ห้ามใช้ เจลแต้มสิว หรือครีมแต้มสิวเด็ดขาด ซึ่งเพราะอะไรเพื่อน ๆ สามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่บทความ สิวผด รักษาไม่หายหรือโฟกัสผิดจุด ในบทความนี้จะบอกสาเหตุทุกอย่างแบบหมดเปลือกว่าทำไมเราถึงห้ามคุณไม่ให้ใช้ยาแต้มสิวทั้ง ๆ ที่เป็นสิว!
2. กรณีที่เป็นสิวผดที่เกิดจากฝุ่น PM 2.5
2.1 เราต้องล้างหน้าให้สะอาด เพราะการล้างหน้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการลดจำนวนสิวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากฝุ่น PM 2.5 ซึ่งสามารถตามไปอ่านต่อได้ในบทความ รู้ยัง? การล้างหน้าช่วยลดอันตรายจาก PM 2.5 ได้นะ ในบทความนี้จะบอกตั้งอต่กลไกการทำงานของ PM 2.5 ที่มีผลต่อผิวเรา รวมถึงบอกเหตุผลว่าทำไมแค่ล้างหน้าก็ลดสิวที่เกิดจาก PM 2.5 ได้แล้ว
2.2 คติประจำใจเวลาไปข้างนอก “ต้องเตรียมตัวเหมือนผู้ร้ายหลบหนี”
– ใส่หน้ากากกันฝุ่น
– สวมเสื้อผ้าที่แขนขายาวเพื่อลดการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ให้มากที่สุด
– สวมแว่นตาเพื่อป้องกัน และลดการระคายเคืองดวงตาจากฝุ่น