โทนเนอร์ คืออะไร? เช็ดโทนเนอร์ยังไงให้ได้ผล? และหน้าไม่เหี่ยวเร็ว

โทนเนอร์เช็ดผิวจำเป็นแค่ไหนในการดูแลผิวหน้าคือสิ่งที่ใครหลายๆ คนยังคงสงสัยและมองข้ามขั้นตอนนี้ไปเพราะเห็นว่าไม่สำคัญและเปลืองเงิน แต่ถ้าพูดถึงขั้นตอนการดูแลผิวหน้าเพื่อผิวสวยสุขภาพดีแล้ว ขั้นตอนการทำความสะอาดถือเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลผิวที่ดี นอกจากจะต้องคำนึงถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชำระล้างสิ่งสกปรกแล้วยังมีอีกผลิตภัณฑ์ประเภทหนึ่งที่ถือว่าช่วยทำความสะอาดผิวเช่นเดียวกันแต่ไม่ต้องล้างออกนั่นก็คือ การเช็ดผิวด้วยโทนเนอร์นั่นเองค่ะ

โทนเนอร์ คืออะไร

โทนเนอร์ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการทำความสะอาดผิวที่ประเภท โดยจะใช้หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าด้วยเจลล้างหน้าหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าประเภทล้างออก โทนเนอร์จะช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวหลังการล้างหน้า เพื่อให้ผิวหน้าของเราพร้อมที่จะบำรุงด้วยสกินแคร์ตัวอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น
โทนเนอร์มีกี่แบบ

โทนเนอร์มีกี่แบบ
โทนเนอร์เป็นสกินแคร์อีกประเภทหนึ่งที่มีคุณสมบัติให้เลือกหลากหลายให้เลือกใช้ตามความต้องการและปัญหาผิวของแต่ละคน หลายๆ คนคิดว่าการใช้โทนเนอร์เป็นเรื่องไม่จำเป็น สิ้นเปลืองเงิน และเสียเวลา เพราะไม่เห็นประโยชน์และการเปลี่ยนแปลงจากการใช้มากนัก ดังนั้นการเลือกโทนเนอร์ให้ตอบโจทย์กับสภาพผิวก็เป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญ โดยหลักๆ แล้วสามารภแบ่งประเภทของโทนเนอร์ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ

  1. โทนเนอร์เพื่อการทำความสะอาดผิวโทนเนอร์ประเภทนี้มักจะเน้นการทำความสะอาดความมันและสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในรูขุมขนของเราให้สะอาดหมดจด เช่น โทนเนอร์เพื่อลดความมัน โทนเนอร์ลดสิว และโทนเนอร์กระชับรูขุมขน เป็นต้น
  2. โทนเนอร์เพื่อการบำรุงผิวโทนเนอร์ประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาผิวมากนัก มักมีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิวในด้านต่างๆ เช่น โทนเนอร์ผิวกระจ่างใส โทนเนอร์เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้น และโทนเนอร์เพื่อลดการระคายเคืองผิว เป็นต้น

เลือกโทนเนอร์ให้ตรงสภาพผิว

วิธีเลือกโทนเนอร์ให้ตรงสภาพผิว

  • ผิวแห้งและมีริ้วรอยเลือกโทนเนอร์ที่เน้นช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า เพราะคนผิวแห้งมักสูญเสียความชุ่มชื้นหลังการล้างหน้าได้ง่ายอยู่แล้ว การใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจะช่วยลดความแห้งตึงของผิวหลังการล้างหน้าและริ้วรอยก่อนวัยได้ คนผิวแห้งควรหลีกเลี่ยงโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้ผิวแห้งยิ่งกว่าเดิม
  • ผิวมันและเป็นสิวเลือกใช้โทนเนอร์ที่เน้นลดความมันอุดตันและกระชับรูขุมขนเป็นหลัก เพราะความมันและสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาสิวซ้ำซาก ซึ่งโทนเนอร์สำหรับคนเป็นสิวที่ช่วยลดความมันอาจมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่ช่วยสลายความมันที่อุดตันในรูขุมขนได้ดี และนอกจากนี้ยังช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้
  • ผิวหมองคล้ำเลือกใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและมีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส
  • ผิวแพ้ง่ายต้องระวังโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองมากเป็นพิเศษ เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ น้ำมันหอมระเหย สารแต่งสี และพาราเบน เป็นต้น ควรเลือกโทนเนอร์ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการแดงและผื่นคันของผิวได้

ทำไมโทนเนอร์ต้องใช้คู่กับสำลี
เพราะลักษณะของโทนเนอร์ที่เป็นของเหลวคล้ายน้ำเปล่ามักใช้คู่กับสำลี เพื่อให้สิ่งสกปรกได้ถูกดูดซับและถูกเช็ดออกไปกับแผ่นสำลี และต้องเลือกสำลีที่มีใยอัดแน่นและซึมซับได้ดี ไม่เหลือใยสำลีบนผิวเวลาเช็ดออก หลาคนมักหลีกเลี่ยงการเช็ดหน้าด้วยสำลีเพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าเร็วขึ้น แต่สาเหตุที่ทำให้ผิวเหี่ยวย่นไม่ได้มาจากการใช้สำลีเพียงอย่างเดียวอาจเกิดจากแรงที่เช็ดผิวและทิศทางการเช็ดที่ไม่ถูกต้องก็ได้ค่ะ

เช็ดโทนเนอร์ยังไงให้หน้าไม่เหี่ยวเร็ว

วิธีเช็ดโทนเนอร์ด้วยสำลีแบบไม่ทำให้ผิวเหี่ยวเร็ว

  • หยดโทนเนอร์ลงบนสำลีให้ชุ่มพอประมาณ
  • แปะสำลีลงบนผิว ทิ้งเวลาไว้สักครู่ให้สารซึมลงสู่ผิว หลังจากนั้นค่อยๆ เช็ดออกอย่างเบามือตามแนวขน คือการเช็ดจากกลางใบหน้าออกไปด้วยข้าง เพื่อการทำความสะอาดอย่างหมดจด
  • ไม่จำเป็นต้องเช็ดทั่วไปหน้าก็ได้ อาจจะเน้นเช็ดเฉพาะจุดที่คาดว่าทำความสะอาดด้วยนิ้วมือไม่ทั่วถึง เช่น บริเวณซอกจมูก มุมปาก ใกล้ขอบตา เป็นต้น

การดูแลเรื่องความสะอาดของผิวหน้าถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดของการมีผิวที่ดี ลดการเกิดปัญหาผิวต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากสิ่งสกปรกอุดตันบนใบหน้า และเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมในการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป เพื่อให้สกินแคร์ตัวถัดไปซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้นและส่งผลให้มีเกิดดียิ่งขึ้น การเลือกโทนเนอร์ให้ตรงกับสภาพผิวและปัญหาผิวที่เผชิญอยู่จึงมีส่วนสำคัญ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการและเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวได้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล