รังสีอัลตราไวโอเลตคืออะไร

สาว ๆ หลายคนอาจไม่รู้ว่ารังสีอัลตราไวโอเลตคืออะไร แต่ถ้าถามว่ารู้จักรังสียูวีหรือไม่ ทุกคนจะต้องร้องอ๋อขึ้นมาทันที แท้จริงแล้วรังสีอัลตราไวโอเลต (Ultravioletray) คือชื่อเต็มของรังสียูวี (UV ray) เป็นคลื่นมาจากแสงอาทิตย์ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ประกอบไปด้วยรังสียูวีเอ (UVA) รังสียูวีบี (UVB) และ รังสียูวีซี (UVC)

โทษของรังสีอัลตราไวโอเลต

คงไม่ต้องพูดอะไรมากเพราะสาว ๆ หลายคนก็คงรู้กันมาบ้างแล้วว่ารังสีอัลตราไวโอเลตมีโทษหรือผลกระทบต่อผิวพรรณอย่างไร ซึ่งก็มีตั้งแต่ทำให้ผิวหมองคล้ำ มีสีเข้มขึ้น เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ บางสถานการณ์ก็ทำให้ผิวเกิดอาการไหม้แดด จนผิวหนังหลุดลอกเป็นแผลพุพองได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานการวิจัยหลายชิ้นรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่ารังสีอัลตราไวโอเลตสามารถทำให้อนุมูลอิสระไปทำลายชั้นคอลลาเจน อีลาสตินจนทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และยังสามารถทะลุผ่านชั้นไขมัน ชั้นผิวหนังลงไปทำลาย DNA กลายเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งผิวหนังได้

เมื่อได้รู้อย่างนี้แล้วจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใคร ๆ ถึงเกรงกลัวเจ้ารังสีชนิดนี้กันนัก แต่อย่าพึ่งตัดสินไป เพราะแม้แต่เหรียญยังมี 2 ด้าน นับประสาอะไรรังสีอัลตราไวโอเลต รังสีชนิดนี้ใช่ว่าจะมีแต่โทษ ประโยชน์ของมันก็มีเพียงแต่สาว ๆ ต้องได้รังสียูวีในสถานที่ ช่วงเวลา และปริมาณที่เหมาะสมประโยชน์ของรังสียูวีจึงจะปรากฏนะจ๊ะสาว ๆ

ประโยชน์ของรังสีอัลตราไวโอเลต

รังสียูวีหรือรังสีอัลตราไวโอเลต ประโยชน์ก็มีนะ??? เพราะเจ้ารังสีชนิดนี้สามารถช่วยสร้างวิตามิน D ซึ่งเป็นวิตามินที่ร่างกายเราไม่สามารถผลิตขึ้นมาเองได้ โดยวิตามิน D จะช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันโรคกระดูกพรุน และโรคกระดูกอ่อน นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสมดุลของธาตุแคลเซียม และธาตุฟอสฟอรัสในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติอีกด้วย แต่ไม่ใช่ว่าสาว ๆ จะไปยืนกลางแดดช่วงตอนเที่ยง หรือตอนบ่ายได้นะ อย่างนี้ไม่น่าช่วยสร้างวิตามิน D แต่น่าจะช่วยสร้างมะเร็งผิวผนังในกับสาว ๆ มากกว่า

ในอดีตอาจบอกว่าช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการสร้างวิตามิน D ให้กับร่างกายคือแสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าช่วง 8:00 – 10:00 น. เป็น ถ้าเป็นเมื่อก่อน หรือเมืองนอกตอนนี้ก็อาจใช้ได้ แต่มันใช้ไม่ได้กับเมืองไทยตอนนี้ เพราะเมืองไทยเป็นประเทศที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรของโลก โดนแสงอาทิตย์เต็ม ๆ แล้วแดดปัจจุบันกับแดดสมัยก่อนมันไม่เหมือนกันไง สมัยก่อนยังมีชั้นโอโซนช่วยกรองแสงอาทิตย์ รังสียูวีที่มายังพื้นผิวโลกจึงมีค่าความเข้มข้นที่ไม่สูงมากนัก แต่เดี๋ยวนี้ชั้นโอโซนเหลือน้อยนิดจะช่วยกรองแสงยูวีให้เราได้สักเท่าไหร่กันเชียว ดังนั้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับรับเมืองไทยจะไม่ใช่

8:00 – 10:00 น. อีกต่อไป แต่เป็น 6:00 -7:00 น. ต่างหาก หรือถ้าเป็นไปได้ ให้ร่างกายเราได้รับแสงแดดได้ไม่ให้เกิน 8 โมงเช้าก็ยังดี

ไม่ได้มีแค่รังสีอัลตราไวโอเลตที่ทำร้ายคุณ

ด้วยสถานการณ์ Covid19 ตอนนี้ทำให้หลายบริษัทเริ่มให้พนังงานทำงานที่บ้าน (Work From Home ; WFM) สาว ๆ หลายคนคงยินดีปรีดาเพราะไม่ต้องออกไปเจอแสงแดด ฝุ่น หรือมลภาวะภายนอก แต่หารู้ไม่ว่าไม่ใช่แค่รังสีอัลตราไวโอเลตเท่านั้นที่สามารถทำร้ายผิวพรรณของสาว ๆ ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีก เช่น

  • รังสี UVA จากหลอดไฟ

  • แสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโน้ตบุ๊ก หน้าจอสมาร์ทโฟน และหน้าจอโทรทัศน์ (ถ้าบ้านใครมี)

  • คลื่นความร้อนอย่างรังสีอินฟราเรดจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ

  • พักผ่อนไม่เพียงพอ

  • ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือทานแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์

  • ความเครียด ฯ

เห็นมั้ยว่าไม่ได้มีแค่รังสีอัลตราไวโอเลตเท่านั้นที่ทำให้ผิวของสาว ๆ เกิดการหมองคล้ำ มีริ้วรอยแก่ก่อนวัย แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่สาว ๆ ต้องรู้ไว้ และหาทางแก้ไขก่อนสายเกินไป

แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัยที่ไม่ได้มาจากรังสีอัลตราไวโอเลต

1. หมั่นทาครีมกันแดดให้ติดเป็นนิสัย

 เพื่อป้องกันรังสียูวีจากหลอดไฟ แสงสีฟ้า และรังสีอินฟราเรดจากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ภายในบ้าน แม้ในปัจจุบันหลอดไฟจะไม่ได้แผ่รังสี UVA ที่เป็นอันตรายกับร่างกาย และยังไม่มีรายงานที่ชี้ชัดว่าแสงสีฟ้า และรังสีอินฟราเรดมีผลทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยหรือไม่ แต่การป้องกันไว้ก่อนก็ไม่ใช่เรื่องผิด อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจของเรา

2. นอนให้เป็นเวลา และพักผ่อนให้เพียงพอ

โดยเฉพาะช่วง 22.00 – 2.00 น.จะเป็นเวลาโกรทฮอร์โมน (GH) หลังออกมาเพื่อทำหน้าที่ฟื้นฟูร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด

3. ทานอาหารที่มีประโยชน์

งานวิจัยชี้ชัดว่าการทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยฟื้นฟูซ่อมบำรุงเนื้อเยื่อให้ผิวมีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน โดยเฉพาะสารอาหารจำพวกโปรตีน วิตามินบีรวม ธาตุเหล็ก ซิงค์ และกรดไขมันจำเป็น

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

การดื่มน้ำมีส่วนช่วยให้ขับถ่ายคล่องจึงขับของเสียต่าง ๆ ที่อยู่ตามลำไส้ให้หมดไป เมื่อร่างกายไม่มีของเสีย จึงช่วยให้ผิวพรรณสวยใส บางคนได้ยินแบบนั้นก็จัดเลยจ้า แต่อย่าลืมว่า ถ้าเราดื่มน้ำมาเกินไปร่างกายก็ขับออกทางปัสสาวะอยู่ดี ไม่มีประโยชน์อะไร ทางที่ดีดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายดีกว่า และควรจะทาครีมบำรุงหรือมอยเจอร์ไรเซอร์เสริมเข้าไปด้วยเพื่อสุขภาพผิวที่ดีของตัวเราเอง

5. พักสมองคลายเครียด

เข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร แต่ทำงานเสร็จแล้วก็ควรพักผ่อนบ้างอะไรบ้าง ไม่ต้องตามติดทุกสถานการณ์ก็ได้ ไปหากิจกรรมอื่น ๆ ทำอย่างดูหนังตลก อ่านนิยาย วาดรูป ฟังเพลง เต้น ออกกำลังกาย ทำอะไรก็ได้ที่ช่วยปลดปล่อยอารมณ์ความเครียด

เชื่อว่าสิ่งที่กล่าวไปนี้เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ละเลย หรือไม่มีเวลาพอที่จะใส่ใจ เฟซแลบส์เลยอยากแนะนำเสียสละเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อดูแลสุขภาพผิว สุขกายกาย และสุขภาพใจให้สดใสอยู่ตลอดเวลา สำหรับสาว ๆ ที่อยากรู้วิธีแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำเต็มรูปแบบ ทางเฟซแลบส์ของแนะนำบทความ : บอกลาหน้าโทรม ผิวหมองคล้ำเมื่อ work from home ให้สาว ๆ ได้ผิวสวยใสแบบจุใจ

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล