คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายๆ คนอาจเคยได้ยินคำว่า “กลากน้ำนม” ที่เป็นอาการผิดปกติที่เกิดบนผิวของลูกมาบ้าง สังเกตจากรอยแดงจางๆ หรือวงด่างขาวๆ บนหน้าลูก และหลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นอาการหนึ่งของโรคกลากเกลื้อนและเข้าใจว่ามีสาเหตุมาจากน้ำนม ซึ่งความจริงแล้วกลากน้ำนมไม่ได้เกิดจากเชื้อราหรือการกินนมของลูกแต่อย่างใด บทความนี้จะพาไปรู้จักกลากน้ำนมให้มากขึ้นกันค่ะ
รู้ได้อย่างไรว่าลูกเป็นกลากน้ำนม
- ผิวมีลักษณะเป็นผื่นสีชมพู/แดงหรือเป็นวงด่างๆ
- ผิวเป็นขุยแห้ง มีการตกสะเก็ด
- พบบ่อยบบริเวณใบหน้า เช่น แก้ม คาง รอบปาก หรือบริเวณลำตัว เช่น คอ แขน หน้าอก
ลูกเป็นกลากน้ำนมได้อย่างไร
กลากน้ำนม จัดอยู่ในกลุ่มหนึ่งของผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema) และโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อหรือเกิดจากการกินนมของลูกแต่อย่างใดค่ะ เป็นเพียงอาการผิดปกติของผิวหนังที่เม็ดสีผิวมีจำนวนลดลงในบริเวณหนึ่งโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เห็นเป็นลักษณะด่างขาวเป็นวงๆ มักเกิดกับเด็กที่มีผิวไวต่อการการตุ้นจากปัจจัยต่างๆ ได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งเป็นกังวลไปค่ะ กลากน้ำนมไม่เป็นอันตรายและไม่ใช่อาการติดต่อแต่อย่างใด สามารถหายไปได้เองแต่อาจใช้ระยะเวลานานกว่าจะกลับเป็นปกติ
เด็กที่มีโอกาสเป็นกลากน้ำนม
- เด็กอายุประมาณ 6-12 ปี
- เด็กที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังหรือโรคผิวหนังอักเสบมาก่อน
- เด็กที่อาบน้ำอุ่นบ่อยๆ
- เด็กที่โดนแดดเป็นประจำและไม่ทาครีมกันแดด
ดูแลผิวลูกอย่างไรดี
- อาบน้ำที่ไม่อุ่นจนมากเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้งกว่าเดิม
- เลือกใช้สบู่ที่อ่อนโยนต่อผิวลูก
- ทาครีมกันแดดให้ลูกเป็นประจำ โดยเลือกครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์หลังอาบน้ำเป็นประจำ เพื่อลดปัญหาผิวแห้งลอก เป็นขุย และลดการตกสะเก็ด
- หากลูกมีอาการคันใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการคัน ลดอาการอักเสบและระคายเคืองผิว หรืออาจใช้ครีมสเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการคันแต่ต้องระวังห้ามใช้บริเวณใกล้ดวงตา ไม่ควรใช้ติดต่อเป็นระยะเวลานาน และควรอยู่ในคำแนะนำของแพทย์ค่ะ
ไอเทมแนะนำ
Babie Gardien Soothing Care Cream มอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้นที่ช่วยเสริมชั้นผิวลูกให้แข็งแรง มีส่วนช่วยลดอาการคันและระคายเคืองผิวของลูกโดยไม่ส่วนผสมของสเตียรอยด์