ทำไมต้องใช้ครีมกันแดด?

การใช้ครีมกันแดดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

 สาวๆ รู้หรือไม่ว่ารังสียูวีจากแสงแดดที่เราต้องเผชิญเป็นประจำทุกวันส่งผลเสียต่อผิวของเรามากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะรังสียูวีจากแสงแดดแสงจากหลอดไฟ คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือ ซึ่ง เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นครีมกันแดดจึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญมากในการปกป้องผิว

ทำความรู้จักกับครีมกันแดดให้มากขึ้น

Sunscreen หรือครีมกันแดดที่หลายๆ คนใช้เป็นประจำเพื่อปกป้องผิวของเราจากแสงแดดหรือรังสี UVที่มีขายทั่วไปหาซื้อง่ายได้หลากหลายชนิด แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

กระจายแสงสะท้อน UVA / ดูดซับ UVB

1. Chemical filter/Chemical Sunscreen
ครีมกันแดดที่ทำหน้าที่ “ดูดซับ” แสงแดดที่ตกกระทบผิวหนัง ช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB นอกจากนี้ครีมกันแดด ประเภทนี้ เกลี่ยง่าย บางเบา ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ แต่ก็มีข้อเสียคือจะปกป้องผิวไม่คงทน
2. Physical filter/Physical Sunscreen
ครีมกันแดดที่ทำหน้าที่ “สะท้อน” แสงแดดที่ตกกระทบผิวหนัง ครีมกันแดดประเภทนี้ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคือง เพราะไม่ทำปฎิกิริยาทางเคมีกับผิวหนัง แต่ข้อเสียคือ ทำให้ผิวเหนียวเหนอะหนะ เนื่องจากเนื้อครีมค่อนข้างหนา

ทาครีมกันแดดอย่างไรให้ปกป้องผิว

ทาครีมกันแดดอย่างไรให้ปกป้องผิว
การใช้ครีมกันแดดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ
สม่ำเสมอทุกวัน ทาก่อนออกแดด 15-30 นาที และควรใช้ครีมกันแดดที่มีเทคโนโลยี Hybrid Sunscreen หรือครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติสองกลไกลในการปกป้องผิวคือ สามารถปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB พร้อมทั้ง มี SPF มากกว่าหรือเท่ากับ 30 และมี PA+++ อย่าง FACELABS Ultra Sun Protection SPF 50 PA+++

 ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่ายด้วยเทคโนโลยี Hybrid Sunscreen ที่ทำหน้าที่ 2 กลไกลใน 1 เดียว คือ สามารถสะท้อนรังสี UVB ออกจากผิวและดูดซับรังสี UVA ไว้ไม่ให้ทำร้ายผิว ด้วยส่วนผสมของ Methylene Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol และ Octocrylene ที่สามารถปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ครีมกันแดด FACELABS Ultra Sun Protection SPF 50 PA+++ นอกจากจะทำหน้าที่ปกป้องผิวอย่างมีประสิทธิภาพแล้วยังบำรุงผิวของคุณให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้นแลดูน่าสัมผัส

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล